Sunday, October 26, 2014

สมุนไพรดอกคำฝอย

ดอกคำฝอย

        มารู้จักดอกคำฝอยที่เป็นส่วนประกอบในยาสตรี ตราโหรทศพรโอสถกันนะคะ

       



     ดอกคำฝอย (Safflower) เป็นไม้ล้มลุก จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับทานตะวัน มีความสูง 40-130 ซม. ดอกจะออกเป็นสีเหลืองแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงภายหลัง ผลแห้งไม่แตก เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม สีขาวขนาดเล็ก สมุนไพรไทยดอกคำฝอยมีถิ่นกำเนิดในตะวันออกกลาง ในประเทศไทยบ้านเรามีแหล่งผลิตดอกคำฝอยที่สำคัญอยู่ทางภาคเหนือ เพาะปลูกกันมากในอำเภอพร้าว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
      ดอกคำฝอยเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพร ที่ช่วยลดความอ้วนได้ เป็นยาเกี่ยวกับสตรีที่ช่วยรักษาอาการต่างๆ เกี่ยวกับระบบเลือดได้ เนื่องจากช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ช่วยขยายหลอด ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ ฯลฯ โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรนั้นก็ได้แก่ ดอก (ทั้งดอกสดและดอกแห้ง), เกสร, กลีบดอกที่เหลือจากผล, เมล็ด, และน้ำมันจากเมล็ด

สรรพคุณของคําฝอย

1.ช่วยบำรุงประสาทและระงับประสาท
2.ช่วยรักษาโรคฮีสทีเรีย โรควิตกกังวลอย่างหนึ่งหรือโรคขาดความอบอุ่น
3.ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด เนื่องจากดอกคำฝอยมีกรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) อยู่มากซึ่งกรดชนิดนี้จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันในเลือดและขับออกทาง ปัสสาวะและทางอุจจาระ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานหัวหอม หรือกระเทียม ที่มีสรรพคุณเช่นเดียวกัน
4.ช่วยลดความอ้วน
5.ช่วยขยายหลอดเลือด และป้องโรคความดันโลหิตสูง
6.ช่วยสลายลิ่มเลือด จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบกินของหวาน เพราะจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เลือดเหนียวข้นจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี
7.ช่วยแก้โรคลมเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก
8.ช่วยขับเหงื่อ
9.ช่วยรักษาอาการไข้หลังของคลอดของสตรี
10.ช่วยบำรุงโลหิต แก้โลหิตเป็นพิษ และช่วยฟอกโลหิต
11.ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจแข็งแรง
12.ช่วยแก้หวัด น้ำมูกไหล
13.เป็นยาถ่าย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ
14. เมล็ดใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
15.ช่วยบำรุงโลหิตประจำเดือนของสตรี ช่วยขับระดูโลหิตประจำเดือนของสตรี ช่วยกระจายเลือดแก้ประจำเดือนคั่งค้างมาไม่เป็นปกติ
16.ช่วยระงับอาการปวดประจำเดือนของสตรี
17.แก้อาการตกเลือด อาการปวดท้องหลังคลอด น้ำคาวปลาไม่หมด
18. ใช้ทารักษาโรคผิวหนังได้
19.ช่วยบำรุงคนเป็นอัมพาต
20.ใช้เป็นยากระตุ้นทางเพศ (Aphrodisiac)
21. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ลดอาการอักเสบ แก้แพ้ ช่วยต้านเชื้อชา เชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งฟันผุ

คำแนะนำในการใช้สมุนไพรดอกคำฝอย 
-แม้ว่าคำฝอยจะมีสรรพคุณที่หลากหลาย แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบเลือดได้หากไม่รู้จักใช้ให้ถูกวิธี ซึ่งแพทย์แผนจีนมักจะใช้ดอกคำฝอยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นอยู่เสมอ จะไม่ใช้เป็นยาเดี่ยว ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรใช้ในระยะยาว
-โทษของดอกคำฝอย การรับประทานอย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณ ที่มากเกินไป อาจจะส่งผลทำให้โลหิตจางได้ มีผลทำให้มีเลือดน้อยลง มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีอาการวิงเวียนศีรษะ หรือกลายเป็นคนขี้โรคโดยไม่รู้ตัว
-การรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปอาจจะทำให้มีประจำเดือนมากกว่าปกติ และอาจทำให้มีอาการมึนงง หรือมีผดผื่นคันขึ้นตามตัวได้
-สำหรับสตรีมีครรภ์ไม่ควรบริโภคสมุนไพรดอกคำฝอย เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาบำรุงเลือดและช่วยขับประจำเดือน หากรับประทานหรือรับประทานในปริมาณมากๆ ก็อาจจะทำให้แท้งบุตรได้
-ควรระมัดระวังเมื่อใช่ดอกคำฝอยร่วมกับยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเกร็ดเลือด (Anticoagulant)

แหล่งอ้างอิง : frynn.com


 ยาสตรี ตราโหรทศพรโอสถ มีส่วนผสมของดอกคำฝอย สิ่งที่ดีเหมาะสำหรับผู้หญิง












Saturday, October 25, 2014

สมุนไพร ว่านชักมดลูก

สมุนไพร ว่านชักมดลูก



     ว่านชักมดลูก จัดอยู่ในพืชตระกูลขิง ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับขมิ้นชัน เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน มีหลากหลายสายพันธุ์ ในประเทศไทยว่านชักมดลูกที่พบตามท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธ์ุ
คือ 1.ว่านชักมดลูกตัวเมีย ซึ่งมีลักษณะหัวกลมรีแนวตั้ง มีแขนงสั้น
     2.ว่านชักมดลูกตัวผู้ มีลักษณะแตกต่างจากว่านชักมดลุกตัวเมียตรงที่ หัวใต้ดินจะกลมแป้นมากกว่าและแขนงจะยาวมากกว่า ทำให้การซื้อในบางครั้งอาจจะจำแนกลำบาก เพราะบางครั้งเมื่อนำทั้งสองตัวมาเปรียบเทียบกันจะดูคล้ายกันมากและจะปลูกกันมากในจังหวัดเลย และเพชรบูรณ์

     ทั้งนี้ได้พบว่ามีพืชชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับว่าชักมดลูกของไทยมาก และยังมีสรรพคุณคล้ายกันอีกด้วย ทำให้มีผู้เข้าใจผิดว่ามันเป็นว่านชักมดลูกที่มาจากประเทศไทย และยังมีสารสำคัญคนละกลุ่มอีกด้วย

สรรพคุณตามตำรายาไทย ใช้เหง้าว่านชักมดลูกรักษาอาการของสตรี เช่นประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน ตกขาว ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการอาหารไม่ย่อย ริดสีดวงทวาร และไส้เลื่อน
 ว่านชักมดลูกมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงคือเอสโตรเจน สารสำคัญของว่านตัวเมีย คือ กลุ่มไฟโตเอสโตรเจน เป็นสารที่ได้จากพืชในธรรมชาติที่ออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจนนั่นเอง
       สารกลุ่มไฟโตเอสโตรเจนมีศักยภาพสำหรับรักษาสุขภาพของสตรีวัยทอง การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในสตรีวัยทอง ทำให้เกิดอาการร้อนวูบวามและแสบร้อนผิวหนัง หงุดหงิด ไขมันในเลือดสูง ผนังหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และที่สำคัญคือกระดูกพรุน ไฟโตเอสโตรเจนมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นและต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมและความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย และพัฒนาเป็นโรคเรื้อรัง รวมทั้งโรคมะเร็งของอวัยวะต่าง ๆ

ผลข้างเคียงของยาว่านชักมดลูก
1.มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุด แต่สามารถรับประทานต่อไปได้เลย
2.มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศรีษะ ตัวร้อน เหมือนจะเป็นไข้มักเกิดในสตรีที่มีร่างกายไม่แข็งแรงแนะนำให้หยุดรับประทานสักพักให้หายเป็นปกติค่อยรับประทานต่อ
3.มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง และลำตัว หากไม่รุนแรงมากเกินไป ให้รับประทานต่อได้
4.มีอาการ ปวดหน้าอก ตึงหน้าอกหรือปวดมดลูก แนะนำให้ลดปริมาณการทานลงครึ่งหนึ่งพออาการดีขึ้นค่อยรับประทานปกติ
5.สำหรับสตรีวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน หลังจากรับประทานอาจจะมีประจำเดือนใหม่เกิดขึ้นได้ โดยคุณสามารถรับประทานต่อไป ประจำเดือนจะค่อยๆหมดไปเอง


ผลข้างเคียงของยาว่านชัก มดลูก มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ก็มีคำแนะนำว่าสามารถรับประทานต่อไปได้เลย มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ตัวร้อน มีอาการไอเหมือนจะเป็นไข้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้สตรีที่ร่างไม่แข็งแรง และมีคำแนะนำว่าให้หยุดรับประทานสักพัดจนกว่าอาการไข้จะหายไป แล้วให้รับประทานต่อในปริมาณที่ลดลงครึ่งหนึ่ง หรือสำหรับผู้ไม่ได้มีอาการไข้ให้เริ่มรับประทานในปริมาณน้อยๆก่อนแล้วค่อย เพิ่มปริมาณในการรับประทานตามฉลากสมุนไพร มีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนังและตามลำตัว ซึ่งเป็นอาการที่พบได้น้อย มีคำแนะนำว่าถ้าหากอาการไม่รุนแรงมากจนเกินให้รับประทานต่อได้ แต่ถ้าผื่นมากก็ให้ลปริมาณลงครึ่งหนึ่ง หากอาการดีขึ้นค่อยกลับมารับประทานในปริมาณที่กำหนด มีอาการปวดหน้าอก ตึงหน้าอก หรือปวดมดลูก ช่องคลอด แนะนำว่าหากมีอาการดังกล่าวให้ลดปริมารยาลงครึ่งหนึ่ง หลังจากอาการดีขึ้นค่อยรับประทานในปริมาณที่กำหนด สำหรับสตรีวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน หลังจากรับประทานอาจจะมีประจำเดือนใหม่เกิดขึ้นได้ โดยคุณสามารถรับประทานต่อไปได้ ประจำเดือนก็จะค่อยๆหมดไปเอง

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
z]
ผลข้างเคียงของยาว่านชัก มดลูก มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ก็มีคำแนะนำว่าสามารถรับประทานต่อไปได้เลย มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ตัวร้อน มีอาการไอเหมือนจะเป็นไข้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้สตรีที่ร่างไม่แข็งแรง และมีคำแนะนำว่าให้หยุดรับประทานสักพัดจนกว่าอาการไข้จะหายไป แล้วให้รับประทานต่อในปริมาณที่ลดลงครึ่งหนึ่ง หรือสำหรับผู้ไม่ได้มีอาการไข้ให้เริ่มรับประทานในปริมาณน้อยๆก่อนแล้วค่อย เพิ่มปริมาณในการรับประทานตามฉลากสมุนไพร มีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนังและตามลำตัว ซึ่งเป็นอาการที่พบได้น้อย มีคำแนะนำว่าถ้าหากอาการไม่รุนแรงมากจนเกินให้รับประทานต่อได้ แต่ถ้าผื่นมากก็ให้ลปริมาณลงครึ่งหนึ่ง หากอาการดีขึ้นค่อยกลับมารับประทานในปริมาณที่กำหนด มีอาการปวดหน้าอก ตึงหน้าอก หรือปวดมดลูก ช่องคลอด แนะนำว่าหากมีอาการดังกล่าวให้ลดปริมารยาลงครึ่งหนึ่ง หลังจากอาการดีขึ้นค่อยรับประทานในปริมาณที่กำหนด สำหรับสตรีวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน หลังจากรับประทานอาจจะมีประจำเดือนใหม่เกิดขึ้นได้ โดยคุณสามารถรับประทานต่อไปได้ ประจำเดือนก็จะค่อยๆหมดไปเอง

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
  ผลข้างเคียงดังกล่าวเป็นผลมาจากกลไกลการทำงานของว่านชักมดลูก และไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด
      ว่านชักมดลูกตัวเมียเป็นสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพสูงที่จะผลิตเป็นยา สำหรับสตรีวัยทอง เพราะสามารถป้องกันและรักษาครอบคลุมอาการที่สำคัญได้หมด สามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ง่ายและไม่ต้องลงทุนมาก
 

แหล่งที่มา:http://www.pharmacy.mahidol.ac.th
ซึ่งจะมีลักษณะของหัวกลม รีตามแนวตั้ง มีแขนงสั้น (ตามภาพแรก) และ ว่านชักมดลูกตัวผู้ (Curcuma latifolia) จะมีลักษณะจะมีลักษณะต่างจากตัวเมียตรงที่ หัวใต้ดินจะกลมแป้นมากกว่า และแขนงจะยาวมากกว่า (ตามภาพที่สอง) ทำให้การซื้อมาใช้บางครั้งอาจจะจำแนกลำบาก เพราะบางครั้งเมื่อนำมาเทียบกันทั้งตัวเมียและตัวผู้จะคล้ายกันมาก โดยจะปลูกมากในจังหวัดเลย และเพชรบูรณ์

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
ซึ่งจะมีลักษณะของหัวกลม รีตามแนวตั้ง มีแขนงสั้น (ตามภาพแรก) และ ว่านชักมดลูกตัวผู้ (Curcuma latifolia) จะมีลักษณะจะมีลักษณะต่างจากตัวเมียตรงที่ หัวใต้ดินจะกลมแป้นมากกว่า และแขนงจะยาวมากกว่า (ตามภาพที่สอง) ทำให้การซื้อมาใช้บางครั้งอาจจะจำแนกลำบาก เพราะบางครั้งเมื่อนำมาเทียบกันทั้งตัวเมียและตัวผู้จะคล้ายกันมาก โดยจะปลูกมากในจังหวัดเลย และเพชรบูรณ์

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
(Curcuma comosa Roxb.)

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
(Curcuma comosa Roxb.)

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
(Curcuma comosa Roxb.)

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/

(Curcuma comosa Roxb.)

© Copyright 2014 Frynn All Right Reserved. | อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/